หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2023 โดยลดลงเป็นส่วนใหญ่ แต่ Nasdaq ขยับขึ้นเล็กน้อย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากหุ้นอยู่ในแดนบวกเกือบทั้งวัน ตามด้วยการเปิดเผยข้อมูล Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ตัวเลขรายเดือนเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2020
ตามรายงานของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รายงานดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core Personal Consumption Expenditure (PCE)) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ดัชนีนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญของต้นทุนบริการ (Service Costs) ที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดติดตามอย่างใกล้ชิด
ราคาพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงเหลือประมาณ 4.51 หลังจากที่ข้อมูลถูกเผยแพร่ออกมา
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของพันธบัตรและหุ้นเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากตลาดหันไปกังวลเรื่องการนัดหยุดงาน (strike) ของคนงานในตลาดยานยนต์ และเรื่องความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะชัทดาวน์ และปัญหาราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น
เดือนกันยายน 2023 กลายเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุดของ S&P ในปีนี้ และเป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Dow ลดลง 1.34%, S&P 0.74% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.06%
ตลอดทั้งเดือน ดัชนี Dow ตกลง 3.82%, S&P 5.04% และ Nasdaq ลดลง 5.79%
และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2023
Last | Change | %Change | |
DOW JONES | 33507.50 | -158.84 | 0.47% |
S&P 500 | 4288.05 | -11.65 | -0.27% |
NASDAQ | 13219.32 | +18.04 | +0.14% |
U.S. 10Y | 4.5711% | ||
VIX | 17.52 | +0.18 | +1.04% |
ณ จุดจุดหนึ่ง ดูเหมือนว่าข้อมูล PCE อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมของตลาดที่มีแรงขายมากในปัจจุบัน เนื่องจากตัวเลขข้อมูล PCE ที่ออกมาน่าพึงพอใจอาจทำให้เฟดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากไปกว่านี้ อีกทั้ง จอห์น วิลเลียมส์ ผู้เป็นประธานประจำธนาคารกลางแห่งนิวยอร์กได้แถลงการณ์ว่าเฟดอาจหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย คาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ตลาดเกิดการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ไม่ได้เป็นไปเช่นนั้น ก่อให้เกิดคำถามต่างๆ ขึ้นมา
- เหล่านักลงทุนที่มักช้อนซื้อหุ้น (Buy on Dips) หายไปไหนกัน
- ความรู้สึกกลัวพลาดสิ่งสำคัญในตลาด (FOMO) ไม่มีแล้วหรืออย่างไร
- ในที่สุดตลาดก็รับรู้แล้วหรือว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นต่อเรื่อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางเทคนิคต่างๆ เนื่องจากตอนนี้ เราซื้อขายต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน และ S&P เข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน หากราคาสามารถยืนต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้อาจเป็นสัญญาณที่อันตราย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาในวันศุกร์ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงลบ บ่งบอกว่าตลาดอาจเปลี่ยนเป็นขาลงได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
แนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นเนื่องจากการชัทดาวน์ของรัฐบาล ควบคู่ไปกับการขายพันธบัตรหากรัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้ได้ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่น่ากังวล อัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นปัจจัยหลักของแรงขายครั้งล่าสุด
นอกจากนี้ การประเมินมูลค่าเทคโนโลยีกำลังอยู่ภายใต้การพิจารณาอย่างละเอียด และความสนใจเกี่ยวกับ AI ก็ลดน้อยลงเช่นกัน เหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อภาคเทคโนโลยีในอนาคต เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังของผลการดำเนินงานของตลาดในปีนี้ จึงเป็นไปได้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจจะโดนเทขายด้วยเช่นกัน
ที่มา CBOE, Bloomberg
บทความนี้เขียนโดยเจมส์ โกเมส (James Gomes) ผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินมากกว่า 30 ปี และทำงานในธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ยาวนานกว่า 20 ปี
ในขณะที่ Doo Group พยายามเพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารนี้ ทางบริษัทไม่รับประกันหรือรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ Doo Group ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารนี้ เนื้อหาที่อยู่ในเอกสารนี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อความใดในเอกสารนี้ที่ถือเป็นคำแนะนำหรือให้คำแนะนำด้านการลงทุนหรือคำแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องใดๆ หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่น ๆ ไม่ควรขึ้นอยู่กับข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเอง คำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ
โดยไม่จำกัดเพียงแค่สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group หรือบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการกระทำใดๆ ที่เกิดขึ้นโดยอาศัยข้อมูลในเอกสารนี้ และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Doo Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยกรณีพิเศษ ในเชิงลงโทษ โดยบังเอิญ หรือทางอ้อม หรือสิ่งที่คล้ายกันซึ่งเกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับเอกสารนี้ แม้ว่าจะมีการแจ้งให้ทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้ว
เอกสารนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อ้างอิงจากการคาดการณ์ในปัจจุบันซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ Doo Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้านั้นเกี่ยวข้องกับการตัดสินเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขัน และตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้มีความยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายได้อย่างแม่นยำ ในแง่ของความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งแฝงอยู่ในข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย Doo Group ว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าจะบรรลุผลสำเร็จ Doo Group เตือนว่าอย่าเชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และเราไม่มีส่วนรับผิดชอบในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ การแสดงความคิดเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เอกสารนี้เป็นความลับของผู้รับอย่างเคร่งครัด ถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณเพื่อเป็นข้อมูลของคุณเท่านั้น และไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อไปยังบุคคลอื่นโดยตรงหรือโดยอ้อมหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใด ห้ามมิให้นำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใดๆ ของเอกสารนี้ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และผู้ที่มีเอกสารนี้อยู่ในครอบครองควรแจ้งให้ทราบด้วยตนเอง และปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงที่จะผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น