แม้หุ้นจะร่วง ทำไม “หุ้น Palantir” ถึงพุ่งแรงในปี 2025? 

2025-04-25 | Palantir (PLTR) ,Palantir Technologies ,บทความวิเคราะห์ตลาดรายสัปดาห์ ,หุ้น Palantir

ในปี 2025 ตลาดหุ้นดูคล้ายสนามรบ หุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตหลายตัวร่วงหนัก นักลงทุนต่างรีบเช็กคำสั่ง stop-loss กันรัวๆ แต่ท่ามกลางความปั่นป่วนนี้? “หุ้น Palantir” ไม่เพียงแค่ยืนระยะได้…แต่มันกำลังพุ่งขึ้น 

ในขณะที่ตลาดโดยรวมเข้าสู่โหมดปรับฐาน หุ้นของ Palantir Technologies (PLTR) กลับกลายเป็นดาวรุ่งประจำปี ราคาพุ่ง เขียวทั้งกระดาน พาดหัวข่าวเป็นบวก และวอลล์สตรีทก็พูดถึงไม่ขาดสาย 

แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Palantir โดดเด่นสวนกระแสในปีที่หลายบริษัทกลับตกต่ำ? 

หัวใจหลักของธุรกิจ Palantir คือความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับหน่วยงานรัฐบาล และในปี 2025 ความสัมพันธ์นี้ไม่เพียงคงอยู่ แต่ยิ่งแน่นแฟ้นกว่าเดิม 

ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีด้านกลาโหมทั่วโลก หลายประเทศเริ่มเทงบลงทุนกับระบบวิเคราะห์ข้อมูลสนามรบ ข่าวกรองด้วย AI และระบบเฝ้าระวังขั้นสูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Palantir 

  • แค่ในไตรมาสแรกของปี บริษัทก็ประกาศคว้าสัญญาใหม่หลายฉบับ มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ กับกระทรวงกลาโหมในยุโรปและเอเชีย 
  • ขณะเดียวกัน ความร่วมมือระยะยาวกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ถูกต่อสัญญาด้วยดีลมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ 

ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีฝั่งผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ลดลงและงบโฆษณาที่ถูกตัด Palantir กลับมีลูกค้าภาครัฐที่ยิ่งอัดงบเพิ่ม และมันก็สะท้อนชัดในงบการเงินของบริษัท 

ใช่, NVIDIA อาจเป็นหน้าตาของกระแส AI แต่ Palantir คือกระดูกสันหลังของมัน 

แพลตฟอร์ม Foundry และ AIP ของ Palantir เริ่มถูกใช้งานจริงในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ โลจิสติกส์ และการผลิต นี่ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นการใช้งานจริงที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจให้กับองค์กร 

ในปี 2024 Palantir หันมาโฟกัสกับ AI สำหรับองค์กรอย่างจริงจัง และในตอนนี้: 

  • แพลตฟอร์ม Artificial Intelligence Platform (AIP) ที่หลายคนจับตามอง กำลังถูกใช้โดยหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เวชภัณฑ์ไปจนถึงพลังงาน 

นักลงทุนเริ่มตระหนักแล้วว่า Palantir ไม่ใช่หุ้นกระแสอีกต่อไป แต่คือบริษัทที่กำลัง “ทำจริง เห็นผลจริง”  

นี่คือประโยคที่ไม่ได้ยินบ่อยในโลกของหุ้นเทคโนโลยีสายเติบโต: Palantir มีกำไร และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง 

หลังจากเคยถูกมองว่าเป็นบริษัทที่เผาเงินไม่หยุด Palantir พลิกเกมสำเร็จในปี 2023 และในปี 2025 ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินที่แท้จริง 

  • มีกำไรตามหลักการบัญชี GAAP ต่อเนื่อง 7 ไตรมาสติดกัน 
  • อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 75% 
  • กระแสเงินสดอิสระแข็งแรง และไม่มีหนี้สิน 

ทั้งหมดนี้ทำให้ Palantir กลายเป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่รายที่ยืนได้อย่างมั่นคง ในสภาพตลาดที่เงินสดคือสิ่งสำคัญ นักลงทุนรายใหญ่ก็กำลังหันมาให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน เฮดจ์ฟันด์ หรือกองทุนระยะยาว ที่อยากลงทุนใน AI แบบลดความเสี่ยงจากหุ้นสายสตาร์ทอัพ 

ลองดูกราฟแบบภาพรวม จะเห็นได้ชัดว่าทำไมนักเทรดถึงแห่กันเข้ามาซื้อ Palantir หลังจากที่ราคานิ่ง ๆ อยู่ในกรอบแคบมาตลอดปี 2023 ถึงต้นปี 2024 ตอนนี้หุ้นทะลุแนวต้านสำคัญที่ 45 ดอลลาร์ไปแล้ว และยังคงเดินหน้าต่อแบบไม่มีท่าทีจะถอย 

ล่าสุด Palantir เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 60 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 100 ดอลลาร์ ฝั่งกระทิงกำลังรอให้ราคาทะลุ 100 ดอลลาร์อย่างชัดเจน เพื่อดันไปสู่จุดสูงสุดใหม่ 

นักเทรดรายย่อยชอบเนื้อเรื่องของหุ้นตัวนี้ สถาบันชอบตัวเลขพื้นฐาน ส่วนสายเทรดโมเมนตัมชอบรูปแบบกราฟที่ชัดเจน 

ในขณะที่หุ้นเทคโนโลยีหลายตัวกำลังดิ่งลง Palantir กลับวิ่งทำจุดสูงใหม่และจุดต่ำใหม่ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นเทรนด์ขาขึ้นที่ textbook มาก และกำลังดึงดูดเม็ดเงินจากทุกกลุ่มนักลงทุน 

งดูแปลก แต่สิ่งที่ถ่วงตลาดส่วนใหญ่ไว้ อย่างสงคราม ความผันผวน และแนวโน้มลดโลกาภิวัตน์ กลับกลายเป็นแรงส่งให้กับ Palantir 

  • งบกลาโหมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก กำลังผลักดันความต้องการเทคโนโลยีด้านการทหาร 
  • กระแสการปกป้องข้อมูลภายในประเทศ ทำให้หลายชาติเริ่มมองหาโซลูชัน AI แบบ localized ซึ่งเป็นสิ่งที่ Palantir เชี่ยวชาญ 
  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทต่าง ๆ หันมามองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบอัตโนมัติ และการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งล้วนเป็นจุดแข็งของ Palantir 

พูดง่าย ๆ คือ ในขณะที่บริษัทอื่นกำลังฝ่าพายุเศรษฐกิจ Palantir กลับเติบโต 

นี่แหละคือคำถามที่หลายคนอยากรู้ ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมากกว่า 20% ตั้งแต่ต้นปี หลายคนเริ่มลังเลว่ายังเข้าทันไหม 

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ 

ถ้าหวังเก็งกำไรระยะสั้น ก็ต้องยอมรับความผันผวน เพราะ Palantir เป็นหุ้นที่เหวี่ยงแรงอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเชื่อในอนาคตระยะยาวของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI การเติบโตของภาครัฐ และการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ จุดนี้อาจยังถือว่าเป็นช่วงต้นของการเติบโตก็ได้ 

ล่าสุด นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทเริ่มปรับเป้าราคาขึ้น บางรายมองไว้สูงถึง 160 ดอลลาร์ หากแนวโน้มการเติบโตยังเดินหน้าต่อแบบนี้ 

ไม่มีหุ้นตัวไหนที่ราคาขึ้นได้แบบไม่มีสะดุด และ Palantir เองก็มีจุดที่ต้องระวัง 

อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ของหุ้นนี้ค่อนข้างสูง อยู่ที่กว่า 70 เท่า ซึ่งแปลว่าตลาดกำลังคาดหวัง “ผลงานไร้ที่ติ” ถ้าพลาดเป้า หรือพลาดสัญญาสำคัญ อาจเกิดแรงขายทันที 

คู่แข่งอย่าง Snowflake และ Databricks ก็กำลังจ้องชิงตลาดองค์กรแบบเดียวกัน ส่วนดีลภาครัฐที่ดูน่าสนใจ ก็ใช่ว่าจะได้ต่อเนื่องเสมอ หากมีการตัดงบหรือเลื่อนแผน ก็อาจกระทบราคาหุ้นได้ 

นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรจับตารายงานผลประกอบการวันที่ 5 พฤษภาคมให้ดี เพราะสิ่งที่บริษัทพูดถึง “แนวโน้มอนาคต” อาจส่งผลต่อราคาหุ้นมากกว่าตัวเลขในงบจริงเสียอีก 

การพุ่งแรงของ Palantir ในปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องโชคดีในช่วงตลาดที่อ่อนแอ แต่เป็นผลจากการวางกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด การใช้งานจริงที่เห็นผลและการดำเนินงานที่เริ่มจับต้องได้ 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หุ้นตัวนี้เป็นสนามรบระหว่างฝั่งที่เชื่อในวิสัยทัศน์กับฝั่งที่มองว่าแค่กระแส แต่วันนี้ตัวเลขกำลังยืนยันเรื่องราวความสำเร็จ 

ในขณะที่หุ้นเทคโนโลยีหลายตัวยังพยายามหาจุดต่ำสุด Palantir กลับเดินหน้าทำจุดสูงใหม่อย่างมั่นคง 

สรุปง่ายๆ คือ ไม่ใช่ทุกหุ้นจะร่วง และ Palantir อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ฉลาดที่สุด สำหรับคนที่อยากลงทุนในเศรษฐกิจยุค AI 

อ่านบทความวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกเพิ่มเติม


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต D Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ D Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-09-19 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ตัวเลขจ้างงานอ่อนแรง ดอกเบี้ยกำลังลด: เฟดจะกันไม่ให้ตลาดหุ้นร่วงเดือนกันยายนได้หรือไม่? 

ตลาดกำลังก้าวเข้าสู่เดือนกันยายนท่ามกลางสัญญาณที่ปะปนกันไปทั่ว การเติบโตของการจ้างงานเริ่มชะลอตัว อัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น และเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ยังคงกลับด้านอย่างรุนแรง ตามประวัติศาสตร์แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณคลาสสิกที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของวัฏจักร  แต่ประเด็นสำคัญคือ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าการเทขายจะเริ่มขึ้นทันที  ในความเป็นจริง ข้อมูลในอดีตชี้ว่า เราอาจได้เห็นแรงหนุนรอบสุดท้ายของการเก็งกำไร ในตลาดหุ้นและดัชนี ก่อนที่เฟสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง จะเริ่มขึ้น คำถามคือ เฟดกำลังรอช้าเกินไปหรือไม่?  ข้อมูลการจ้างงานอ่อนแรง: เราเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือยัง?  ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดจาก BLS ระบุว่า มีเพียง 48% ของอุตสาหกรรมที่เพิ่มตำแหน่งงานในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญ เพราะตามสถิติแล้ว เมื่อการเติบโตของการจ้างงานต่ำกว่า 50% มักหมายถึงเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไม่ช้า  ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 0.9% จากจุดต่ำสุดของรอบวัฏจักร หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1945 ทุกครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตามมาในเวลาไม่นาน  แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งเหล่านี้คือการวางฉาก: ตลาดแรงงานกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน ผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังมากขึ้น และเฟดกำลังเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากขึ้นกว่าเดิม  ทางสองแพร่งของเฟด: สายเกินไปที่จะลดดอกเบี้ยหรือไม่?  ธนาคารกลางสหรัฐ กำลังเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากดำเนินนโยบายเข้มงวดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ปัญหาคือ ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย ก็มักจะสายเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ  อมูลจาก Federal […]

article-thumbnail

2025-09-08 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

นธบัตรให้ผลตอบแทนสูงขึ้น: ถึงเวลาที่นักลงทุนหุ้นต้องกังวลหรือยัง?

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรโลกพุ่งขึ้น แม้ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ย ทำไมนี่จึงสำคัญ และนักเทรดหุ้นควรจับตาอะไรในเดือนกันยายน 

article-thumbnail

2025-08-28 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ดอกเบี้ยขาลง : ทองคำคือโอกาส?

ดอกเบี้ยขาลง กำลังมา ดูว่าทำไมทองคำอาจเตรียมเบรกทะลุระดับ $3,500 และทำไมนักเทรดจับตาเป้าหมาย $4,000 ในรอบนี้