พลวัตตลาดIconBrandElement

article-thumbnail

2025-09-19 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ตัวเลขจ้างงานอ่อนแรง ดอกเบี้ยกำลังลด: เฟดจะกันไม่ให้ตลาดหุ้นร่วงเดือนกันยายนได้หรือไม่? 

ตลาดกำลังก้าวเข้าสู่เดือนกันยายนท่ามกลางสัญญาณที่ปะปนกันไปทั่ว การเติบโตของการจ้างงานเริ่มชะลอตัว อัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น และเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ยังคงกลับด้านอย่างรุนแรง ตามประวัติศาสตร์แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณคลาสสิกที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของวัฏจักร  แต่ประเด็นสำคัญคือ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าการเทขายจะเริ่มขึ้นทันที  ในความเป็นจริง ข้อมูลในอดีตชี้ว่า เราอาจได้เห็นแรงหนุนรอบสุดท้ายของการเก็งกำไร ในตลาดหุ้นและดัชนี ก่อนที่เฟสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง จะเริ่มขึ้น คำถามคือ เฟดกำลังรอช้าเกินไปหรือไม่?  ข้อมูลการจ้างงานอ่อนแรง: เราเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือยัง?  ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดจาก BLS ระบุว่า มีเพียง 48% ของอุตสาหกรรมที่เพิ่มตำแหน่งงานในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญ เพราะตามสถิติแล้ว เมื่อการเติบโตของการจ้างงานต่ำกว่า 50% มักหมายถึงเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไม่ช้า  ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 0.9% จากจุดต่ำสุดของรอบวัฏจักร หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1945 ทุกครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตามมาในเวลาไม่นาน  แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งเหล่านี้คือการวางฉาก: ตลาดแรงงานกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน ผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังมากขึ้น และเฟดกำลังเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากขึ้นกว่าเดิม  ทางสองแพร่งของเฟด: สายเกินไปที่จะลดดอกเบี้ยหรือไม่?  ธนาคารกลางสหรัฐ กำลังเตรียมลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากดำเนินนโยบายเข้มงวดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ปัญหาคือ ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย ก็มักจะสายเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ  อมูลจาก Federal […]

article-thumbnail

2025-08-21 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

หลังประชุม ทรัมป์–ปูติน จับตาสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนี้

ข่าวพาดหัวมาแล้วก็ผ่านไป ตลาดไม่ไหวติง แต่คุณอย่าเพิ่งตายใจ ใต้ผิวน้ำอันสงบนั้น มีบางสิ่งสำคัญเพิ่งเกิดขึ้น: ทรัมป์กับปูตินนั่งคุยกันแบบตัวต่อตัวที่อลาสกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา และเมื่อสองมหาอำนาจด้านภูมิรัฐศาสตร์เปิดปากพูดคุยกัน หลังความเงียบอันเย็นเยียบหลายปี ผลกระทบที่ตามมาอาจไม่ฉับไวเหมือนการขึ้นดอกเบี้ย แต่แรงกระเพื่อมจะรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อมันเริ่มเคลื่อนไหว  และเมื่อมันระเบิดขึ้นมา ก็จะไม่มีคำว่าเบาเลย  นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่มันอาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่จะพลิกโฉมตลาดพลังงาน พันธมิตรระหว่างประเทศ และแม้แต่การคาดการณ์เงินเฟ้อที่กำลังมุ่งหน้าสู่ปี 2026.  การประชุมที่ (เงียบๆ) แต่เขยื้อนตลาดได้  ต่างจากซัมมิตทั่วไปที่เต็มไปด้วยข่าวพาดหัวและวาทะเร้าอารมณ์ การพบกันของทรัมป์–ปูตินครั้งนี้กลับเรียบง่ายอย่างน่าประหลาด  ไม่มีข้อตกลงสันติภาพ ไม่มีการเจรจาทะลุทางตัน ไม่มีการจับมือบนเวทีใหญ่พร้อมแสงสีเสียงอลังการ  แต่นั่นแหละ คือเหตุผลที่มันสำคัญ  เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ดูเหมือนว่าวอชิงตันกับมอสโกจะกลับมาคุยกันอีกครั้งในเบื้องหลัง และในโลกของสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก การสื่อสารคือสินทรัพย์ โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งในยูเครนยังไม่มีวี่แววจะยุติ  นักเทรดเริ่มตั้งคำถามกันแล้วว่า: หรือว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายความตึงเครียด?  ทำไมสินค้าโภคภัณฑ์นี้ควรอยู่ในเรดาร์ของคุณ  อย่าอ้อมค้อมเลย: มันคือน้ำมัน  แม้จะไม่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาทันที แต่นักเทรดรู้ดีว่าเมื่อใดที่มีสัญญาณแห่งสันติภาพ แม้เพียงแค่จุดเริ่มต้น ก็อาจทำให้เส้นทางการขนส่งที่ถูกปิดกลับมาเปิดได้ มาตรการคว่ำบาตรอาจผ่อนคลายลง และค่าความเสี่ยงที่ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย–ยูเครนอาจเริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าตลาดพลังงานทั้งหมด  ตำแหน่งถือครองแบบเก็งกำไรฝั่ง Long ในน้ำมันดิบ WTI ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 […]